firewall สำคัญอย่างไร?

การใช้ระบบไฟร์วอลล์


การบุกรุกโดยเจาะระบบจากอินเตอร์เข้ามา อาจป้องกันได้ด้วยการติดตั้งระบบ ไฟร์วอลล์ ( Firewall )  ซึ่งอาจเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ก็ได้ โดยทั่วไปมักจะติดตั้งไว้คอยดักจับ ป้องกัน และตรวจสอบการบุกรุกจากภายนอก ปัจจุบันแม้แต่ router ตัวเล็กๆ ที่ต่อกับอินเตอร์เน็ตยังมีโปรแกรม Firewall อยู่ในตัว

การทำงานของ Friewall  จะยอมให้ผ่านเฉาะข้อมูลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ หากไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดจะไม่สามารถเข้าออกจากเครือข่ายได้ เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอก อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้บุคคลภายในแอบลักลอบส่งข้อมูลบางอย่างออกไปด้วย


แต่ถึงจะมี Firewall แล้วยังอาจถูกบุกรุกหรือมีช่องโหว่ได้ เพราะ Firewall แต่ละตัวเก่งไม่เท่ากัน หรือบางทีก็ต้องมีการอัพเดทโปรแกรมให้ทันสมัยเพื่ออุดช่องโหว่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาการป้องกันระบบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Next Generation Firewall


Next Generation Firewall (NGFW) เป็น Firewall ที่มีการยกระดับการป้องกันให้ทำงานได้ อย่างครอบคลุมมากขึ้น มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น เป็นไปตามชื่อนั่นคืออีกยุคสมัยหนึ่งของ Firewall เพื่อจะรับมือภัยคุกคามที่ซับซ้อน และการใช้งานของผู้ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเอง โดย Feature หลายๆอย่างที่เพิ่มเข้ามาในแต่ละ Vendor ก็จะคล้ายๆกัน ดังนี้

  • เข้าใจถึงระดับ Application Layer นั่นคือแทนที่จะมองเป็นแค่ข้อมูลที่ส่งผ่าน port 80,443 เป็นการใช้งานของ application ประเภทใด แยกออกว่าเป็นการใช้โปรแกรมอย่าง LINE, Facebook Application, Facebook Game หรือไม่ เมื่อเข้าใจว่าเป็นการใช้งาน application ใดๆก็จะสามารถควบคุมการใช้งานเพิ่มเติมได้ เช่น การระบุเวลาการเล่น Facebook ภายในองค์กร เป็นต้น
  • ติดตั้งระบบ IPS (Intrusion Protection System) เพิ่มเติมเข้าไป ทำให้สามารถป้องกันการ โจมตีภัยคุกคามต่างๆที่เป็น “Well-known attack ต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น Known exploit attacks, การใช้งานที่ผิดปกติ Activity รวมถึงสามารถทำ traffic behavioral analysis ได้อีกด้วย
  • เพิ่มความสามารถในการ track user ร่วมกับระบบ authentication ที่มี(เช่น Active Directory, LDAP เป็นต้น ทำให้ไม่เพียงแต่การป้องกันการใช้งาน Network ในระดับ network layer เท่านั้น ยังสามารถแบ่งแยกการเข้าถึง server ต่างๆโดยดูจาก user ของผู้ใช้งานอีกด้วย
  • สามารถทำงานในลักษณะ Bridge mode หรือ Route Mode ก็ได้เช่นกัน
  • มีการติดตั้งระบบ Antivirus เข้าไปเพิ่มอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้สามารถดักจับ Malware ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานที่ใช้งานเครือข่ายผ่าน NGFW อีกด้วย
  • อีกทั้งยังสามารถมีการนำข้อมูลจากภายนอกอย่าง Blacklist IP หรือ Sandbox สำหรับทำ Malware analysis มาเป็นตัวช่วยในการป้องกันเพิ่มเติมได้อีกด้วย



จากประสิทธิภาพทั้งหมดเราจะเห็นว่า NGFW ไม่ได้มาเพื่อตอบโจทย์การป้องกัน ในลักษณะ เดิมอีกต่อไป NGFW ยังเน้นการป้องกันในส่วนของผู้ใช้งานให้มากขึ้นเป็นอย่างมาก การวาง NGFW นั้นจริงๆแล้วสามารถแทน Firewall ได้เลย แต่เพื่อไม่ให้ NGFW ทำงานหนักมากเกินไป NGFW จึงควรไว้หลัง Firewall เสียมากกว่า โดย NGFW ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมีหลายยี่ห้อ เช่น Palo Alto, Cisco, Checkpoint, Fortigate เป็นต้น

สรุป

กาลเวลาที่เปลี่ยนไปทำให้อะไรๆ  ก็ต้องปรับตัว ยิ่ง Malware พัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ ฝ่ายป้องกันก็ต้องพัฒนาตามมากขึ้นเท่านั้นเช่นกัน สิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามคือการคอยเฝ้าระวังภัย คุกคามที่อาจเกิดขึ้นใหม่ทุกๆวัน เพื่อให้องค์กรเราไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามเหล่านั้นนั่นเอง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น